นโยบายการส่งเสริมและมาตรการสนับสนุน
3.5 มาตรการด้านสิ่งแวดล้อม
สมาคมผู้ส่งออกไทยเตรียมรับมือมาตรการ CBAM ของสหภาพยุโรป (EU) ซึ่งเป็นมาตรการเพื่อจัดเก็บ ภาษีคาร์บอนจากสินค้านำเข้าที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูง โดยมีเป้าหมายป้องกันการรั่วไหลของคาร์บอน (Carbon Leakage) และสร้างความเท่าเทียมทางการแข่งขันระหว่างผู้ผลิตในและนอก EU เริ่มบังคับใช้ระยะเปลี่ยนผ่านตั้งแต่ ตุลาคม พ.ศ. 2566 ถึงธันวาคม พ.ศ. 2568 ก่อนมีผลเต็มรูปแบบในปี พ.ศ. 2569 ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสินค้าส่งออกของประเทศไทย โดยเฉพาะกลุ่มเหล็ก เหล็กกล้า และอะลูมิเนียม ซึ่งเป็นสินค้าที่มีความเสี่ยงในการรั่วไหลของคาร์บอนสูง โดยในปี พ.ศ. 2565 ประเทศไทยมีมูลค่าการส่งออกสินค้าที่เข้าข่าย CBAM จำนวน 479.02 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 2.12 ของมูลค่าการส่งออกสินค้าทั้งหมดของประเทศไทยไปสหภาพยุโรป หรือคิดเป็นร้อยละ 5.47 ของมูลค่าการส่งออกสินค้าดังที่เข้าข่าย CBAM จากประเทศไทยไปตลาดโลก ทั้งนี้มาตรการ CBAM จะเพิ่มต้นทุน ให้ผู้ส่งออกไทยหากไม่มีการปรับตัว
ภาครัฐและเอกชนได้ร่วมมือกันส่งเสริมผู้ประกอบการจัดทำฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ (Carbon Footprint of Product : CFP) เพื่อเตรียมความพร้อมในช่วงระยะเปลี่ยนผ่านของประเทศไทย ซึ่งเป็นการคำนวณปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตลอดห่วงโซ่อุปทาน ที่สามารถนำไปใช้วางแผนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมี อบก. เป็นหน่วยงานรับรอง CFP
นอกจากนี้ กลุ่มอุตสาหกรรมอะลูมิเนียมไทย มีการดำเนินโครงการจัดทำฐานข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมของกลุ่มอุตสาหกรรมอะลูมิเนียม เพื่อรองรับมาตรการ CBAM ที่มีสมาชิกกลุ่มอุตสาหกรรมเข้าร่วมโครงการ จำนวน 11 บริษัท โดยเป็นการดำเนินงานของ สอท. ร่วมกับศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ สวทช. ซึ่งฐานข้อมูลนี้ทำให้ ประเทศไทยมีค่ากลางการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของผลิตภัณฑ์อะลูมิเนียม สำหรับการรายงานตามเกณฑ์ของมาตรฐาน CBAM และสามารถต่อยอดปรับปรุงกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
คาร์บอนเครดิต คือ ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่สามารถลด/ดูดกลับ/ดูดซับได้จากการดำเนินโครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และสามารถนำคาร์บอนเครดิตไปแลกเปลี่ยนหรือซื้อขาย โดยต้องผ่านการรับรองมาตรฐานที่กำหนด ซึ่งตัวอย่างหนึ่งของการซื้อขายคาร์บอนเครดิตคือ การดำเนินโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย (Thailand Voluntary Emission Reduction Program (T-VER)) ซึ่งเป็นลักษณะการเจรจาต่อรองระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายโดยตรง (Over-the-counter: OTC) โดยผู้สนใจเข้าร่วมต้องยื่นขอเปิดทะเบียนบัญชีซื้อขายกับ อบก. ซึ่งสามารถนำคาร์บอนเครดิตจากโครงการ T-VER ไปชดเชยสถานะการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้
ในปี พ.ศ. 2566 มีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ขึ้นทะเบียนโครงการ T-VER จำนวนรวม 27 โครงการ ตามที่แสดงในตารางที่ 3.10 ซึ่งมีปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่คาดว่าจะลดได้ 104,668 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ เทียบเท่าต่อปี
ปี พ.ศ. 2566 ประเทศไทยมีการซื้อขายคาร์บอนเครดิตประมาณ 857.1 พันตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า คิดเป็นมูลค่าประมาณ 68.3 ล้านบาท โดยเป็นคาร์บอนเครดิตที่มาจากระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ประมาณ 246.2 พันตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า คิดเป็นมูลค่าประมาณ 15.8 ล้านบาท ด้วยราคาซื้อขายเฉลี่ย 64.16 บาทต่อตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
อ.เมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ ขนาดกำลังการผลิต 1 MW ส่วนหนึ่งของโครงการที่ขึ้นทะเบียน T-VER
ของบริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)
| โครงการ* | ตันคาร์บอนได-ออกไซด์เทียบเท่า | |
| 1 | Sirindhorn Dam Hydro-Floating Solar 45 MW | 44,590 |
| 2 | Solar PV rooftop project by GLOBAL HOUSE | 16,760 |
| 3 | Solar Rooftop Project (Phase II) by PTT Oil and Retail Business Public Company Limited | 8,954 |
| 4 | Solar PV Rooftop Project of ThaiNamthip Corporation Limited | 8,056 |
| 5 | Solar PV rooftop project at ThaiBev affiliated company (2nd Phase NorthEast) | 2,835 |
| 6 | Solar PV project by S.KIJCHAI ENTERPRISE PLC. | 2,452 |
| 7 | Solar PV project by Siam KUBOTA Corporation | 2,164 |
| 8 | Solar Rooftop Project 2.997 MW of University of Phayao | 2,077 |
| 9 | Solar PV project by GROHE SIAM | 1,823 |
| 10 | Solar PV project 2.467 MW by Ratchaburi Power Co.,Ltd. | 1,619 |
| 11 | Solar Farm of Golden Lime Public Company Limited, Thailand | 1,543 |
| 12 | Solar Power Generation Project at PTT Innovation Institute | 1,435 |
| 13 | Solar PV PPA 1.71 MW project at SIAMCOMPRESSOR INDUSTRY CO.,LTD. | 1,125 |
| 14 | SOLAR ROOFTOP PROJECTS 1.68 MW AT INOAC TOKAI (THAILAND) CO., LTD. | 1,020 |
| 15 | Solar Power System Capacity 1.6 MW of Inoue Rubber (Thailand) Public Co., Ltd. at Pathumthani and Ayutthaya, Thailand | 992 |
| 16 | TCCC SOLAR ROOFTOP PROJECT | 989 |
| 17 | Solar PV Rooftop at Sitex Industry Corporation Size 1.6 เมกะวัตต์ | 924 |
| 18 | Solar PV Project at PTT Pipeline operation Centers | 886 |
| 19 | Solar Rooftop Project of Premium Foods Co., Ltd. | 805 |
| 20 | Solar PV Rooftop at 990.265 kW (Phase 1) | 677 |
| 21 | Solar PV Rooftop project at U.M.C. Die Casting | 649 |
| 22 | Solar Rooftop Project 999.53 kWby Sri Trang Gloves (Thailand) Public Company Limited (Trang Branch) | 614 |
| 23 | Solar Rooftop at Thaioil’s Buildings | 514 |
| 24 | Solar Rooftop 553.175 kW of Thai PET Energy Company Limited | 337 |
| 25 | Solar PV Rooftop Project 375 kW at Thai Packaging Manufacturer Co., Ltd. | 322 |
| 26 | Solar Rooftop DMK Project | 287 |
| 27 | Solar Carpark roof expansion 288 kW at Shell Company of Thailand, Head Office Bangkok | 192 |
*ไม่รวมโครงการแบบแผนงาน
สอท. ร่วมกับ อบก. ยังได้พัฒนาแพลตฟอร์ม FTIX (FTI:CC/RE/REC X Platform) เพื่ออำนวยความสะดวกในการซื้อขาย แลกเปลี่ยนคาร์บอนเครดิต และยังรองรับการซื้อขายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน รวมถึงการซื้อขายด้วย ปี พ.ศ. 2566 มีการซื้อขายคาร์บอนเครดิตผ่าน FTIX ประมาณ 11.9 พันตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า โดยเป็นคาร์บอนเครดิต จากพลังงานชีวมวลร้อยละ 97.5 และเป็นคาร์บอนเครดิตจากพลังงานแสงอาทิตย์ร้อยละ 2.5
ผู้ที่ต้องการซื้อคาร์บอนเครดิตยังสามารถเปิดบัญชีกับแพลทฟอร์มซื้อขายคาร์บอนเครดิตของต่างประเทศ เช่น CBL Xpansiv, Air Carbon Exchange, Carbon Trade Exchange เป็นต้น เพื่อซื้อคาร์บอนเครดิต ในมาตรฐานอื่น ๆ เพิ่มเติมได้
ใบรับรองเครดิตการผลิตพลังงานหมุนเวียน (REC) ใช้เพื่อรับรองการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน โดย 1 REC มีค่าเท่ากับไฟฟ้า 1 เมกะวัตต์-ชั่วโมง โดยมี กฟผ. เป็นผู้ให้การรับรองกับโรงไฟฟ้าในประเทศไทย (Thailand Local Issuer) ตามมาตรฐานของ The International REC Standard Foundation (I-REC Standard) โดยจนถึงปี พ.ศ. 2566 กฟผ. ได้ขึ้นทะเบียนโรงไฟฟ้าในประเทศไทยตามมาตรฐาน I-REC ไปแล้ว 450 โครงการ กำลังการผลิตรวมโดยประมาณ กว่า 5.55 จิกะวัตต์ มีโครงการเพื่อการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ 310 โครงการ กำลังการผลิตรวมกว่า 2.02 จิกะวัตต์ ทั้งนี้ กฟผ. มีเป้าหมายในการเป็นผู้ให้การรับรองตามมาตรฐาน I-REC ในระดับภูมิภาคต่อไป (Regional Issuer)
ในปี พ.ศ. 2566 กฟผ. ได้ให้การรับรองการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ จำนวนกว่า 1.86 ล้าน REC เป็นลำดับสามรองจากการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานชีวภาพ และพลังงานน้ำ โดยมีพลังงานลมเป็นลำดับที่สี่ คิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 20 จากการให้การรับรองการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนทั้งหมด ทั้งนี้ มีผู้ขอซื้อใบรับรองการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์จำนวนกว่า 1.19 ล้าน REC คิดเป็นสัดส่วนประมาณ ร้อยละ 24 จากการขอซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนทั้งหมด
| เทคโนโลยีในการผลิตไฟฟ้า | กำลังการผลิต (เมกะวัตต์) |
ปริมาณการผลิตไฟฟ้า ที่ได้รับการรับรอง (REC) |
ปริมาณไฟฟ้า ที่มีการขอซื้อ (REC) |
| พลังงานชีวภาพ | 9,136.71 | 5,112,467.75 | 1,480,509.94 |
| ไฟฟ้าพลังน้ำ | 29,896.96 | 2,121,955.47 | 2,077,811.16 |
| พลังงานแสงอาทิตย์ | 6,973.85 | 1,858,616.61 | 1,190,693.80 |
| พลังงานลม | 1,007.44 | 307,613.08 | 279,260.07 |
| รวม | 47,014.96 | 9,400,652.91 | 5,028,274.97 |
ภาครัฐตระหนักและเล็งเห็นความสำคัญของการจัดการซากเซลล์แสงอาทิตย์หรือแผงเซลล์แสงอาทิตย์ ซึ่งการใช้งานระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากในปัจจุบันอาจนำไปสู่ปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่เพิ่มสูงขึ้นได้ในอนาคต จึงต้องมีกระบวนการจัดการขยะและการนำกลับมาใช้ใหม่ที่เหมาะสมเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ปี พ.ศ. 2565 กรมควบคุมมลพิษ ได้จัดทำร่างแผนปฏิบัติการด้านการจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์เชิงบูรณาการ (พ.ศ. 2565 – 2569) และร่างพระราชบัญญัติการจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งภายใต้ร่างกฎหมายดังกล่าวได้ให้ความสำคัญกับการจัดเก็บ รวบรวม คัดแยก ถอดชิ้นส่วน และกำจัดซากผลิตภัณฑ์ที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ เช่น การห้ามทิ้งหรือทำลายซากผลิตภัณฑ์ในที่สาธารณะ แนวทาง ในการจัดตั้งศูนย์รับคืนชากผลิตภัณฑ์ เป็นต้น ทั้งนี้ในปี พ.ศ. 2566 ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว อยู่ระหว่างกระบวนการ รับฟังความคิดเห็น
นอกจากนี้ ยังมีหน่วยงานที่ได้ศึกษาการจัดการแผงเซลล์แสงอาทิตย์ที่ใช้แล้ว เช่น การศึกษาการจัดทำต้นแบบ กระบวนการจัดการแผงเซลล์แสงอาทิตย์ในประเทศไทย โดยศูนย์เทคโนโลยีพลังงานแห่งชาติ (ENTEC) สวทช. ซึ่งได้ มีการเผยแพร่ผลการศึกษาและรับฟังความคิดเห็นในช่วงเดือนธันวาคม พ.ศ. 2566 โครงการเพื่อการพัฒนาเทคโนโลยีรีไซเคิลซากแผงเซลล์แสงอาทิตย์อย่างครบวงจร โดย กพร. (รูปที่ 3.11)
![]() |
![]() |
(กระจก แถบลวดนำไฟฟ้า แผ่นซิลิกอน)


